เครื่องทาบบัตร

บริษัท ซีเคียวเมท จำกัด (Securemate) นำเข้า และจัดจำหน่าย เครื่องทาบบัตร คีย์การ์ด ขายเครื่องสแกนบัตร บัตรคีย์การ์ด เครื่องคีย์การ์ด ประตูคีย์การ์ด เครื่องทาบบัตรพนักงาน ประตู key card เครื่องรูดบัตร ราคาถูก เครื่องทาบบัตร คีย์การ์ด ราคาถูก หรือเครื่องควบคุมการเข้าออกประตู (Access Control) เป็นเครื่องบันทึกเวลาทำงาน ต่อกับอุปกรณ์ที่เป็นกลอนไฟฟ้า หรือกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า โดยสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มบริษัท ส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องบันทึกเวลาแต่จะมี เครื่องทาบบัตร บางรุ่นที่สามารถควบคุมการเข้า-ออกได้ด้วยซึ่งจะใช้งานก็ได้หรือไม่ใช้งานก็ได้แต่ถ้ากลุ่มผู้ใช้เป็นเจ้าของ หอพัก คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ ส่วนใหญ่เน้นเป็นเครื่องควบคุมประตูสำหรับลูกค้าหรือผู้มีสิทธิเข้าออกภายในสถานที่นั้นๆมากกว่าข้อมูลการบันทึกเวลา แบ่งสินค้า

วีดีโอวิธีการใช้งานเครื่องทาบบัตร รุ่น SM-103 ด้วยจอ LCD แสดงเมนูการทำงานต่างๆ บน เครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด มีปุ่มเมนู ปุ่มกดตัวเลข สามารถเพิ่ม บัตรคีย์การ์ด ที่ตัวเครื่องทาบบัตร ได้สะดวก และยังสามารถลบบัตรคีย์การ์ที่ต้องการลบออกจากหน้าเครื่องได้อีกด้วย มีเสียงตอบรับและเมนูภาษาไทย หรือสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้อีกด้วยเหมาะกับการใช้งานกับสถานที่ที่มีคนต่างประเทศก็สามารถใช้งานได้อย่างดี

รู้จักกับเครื่องทาบบัตร

  • เครื่องทาบบัตร (Tag Reader) หรือเครื่องอ่านบัตร จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาอยู่ตลอดเวลา และคอยตรวจจับว่า บัตรพนักงาน Tag เข้ามาอยู่ในบริเวณของสนามแม่เหล็กไฟฟ้านั้นหรือไม่ หรือก็คือคอยตรวจจับคลื่นที่มีการมอดูเลตคลื่นมอดูเลต คือ คลื่นสัญญาณข้อมูลเดิมถูกผสมด้วยคลื่นพาห์ที่มีความถี่ Frequency สูงกว่ามากๆเพื่อให้ส่งคลื่นไปได้ระยะทางไกลขึ้น กำลังส่งของคลื่นไม่สูญเสียไปในอากาศจนหมด
  • เมื่อมี บัตรพนักงาน Tag เข้ามาอยู่ในบริเวณสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแล้ว บัตรพนักงาน Tag ก็จะได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ เครื่องทาบบัตร (Tag Reader) ส่งออกมาแล้วจึงทำการแปลงไปเป็นศักดาไฟฟ้าทำให้วงจรอิเลคโทรนิก ซึ่งอยู่ถายในบัตรพนักงาน Tag เริ่มทำงาน และสะท้อนคลื่นที่บรรจุข้อมูลประจำตัวโต้ตอบกลับออกไปยังตัว Reader พร้อมกับข้อมูลที่บันทึกอยู่ในไมโครชิปหน่วยความจำ โดยอาศัยคลื่นพาห์ (Carrier wave) คลื่นที่ถูกการมอดูเลตเรียบร้อยแล้ว ออกมาทางสายอากาศที่อยู่ภายใน บัตรประจำตัวพนักงาน Tag
  • คลื่นพาห์ที่ถูกส่งออกมาจาก RFID Tag จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดAmplitude, ความถี่ (Frequency) หรือ เฟส (Phase) ขึ้นอยู่กับวิธีการมอดูเลตทำให้ส่งไปได้ระยะไกลขึ้น
  • ตัว Reader จะตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของคลื่นพาห์ และ ทำการถอดรหัส แล้วแปลงออกมาเป็นข้อมูลเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการระบุว่ารหัสเลขประจำตัวในตัวบัตรซึ่งแตกต่างกันทุกบัตร จึงทำให้สามารถระบุว่าเจ้าของบัตรเป็นใคร

ระบบเทคโนโลยี RFID เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่หลายประเทศให้ความสนใจและตื่นตัวกับเทคโนโลยี RFID จึงมีนโยบายสนับสนุนการใช้ RFID อย่างจริงจัง ปัจจุบันเทคโนโลยี RFID เริ่มเข้ามามีความสำคัญกับเราในชีวิตประจำวันมากขึ้นในรูปแบบการใช้งานต่างๆ กันตามแต่ความคิดที่จะประยุกต์ใช้งานได้ เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน บัตรพนักงาน กุญแจรถยนต์ (Electronics Immobilization) บัตรร้านสะดวกซื้อ ในแวดวงอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยี RFID ไปใช้ในส่วนของการผลิตเพื่อ Track and Trace ระบบบันทึกข้อมูลการจัดการสินค้าระหว่างการผลิตและจำหน่ายสินค้า การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และการกระจายสินค้า ระบบการขนส่ง การติดตามตู้สินค้าระหว่างการขนส่ง (e-Seal) การนำมาประยุกต์ใช้งานในการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการตรวจสอบย้อนกลับในอุตสาหกรรมอาหาร (Food Traceability) ซึ่งพัฒนาการของเทคโนโลยี RFID ในปัจจุบันและอนาคตนั้นมีศักยภาพและปัจจัยเอื้ออำนวยอื่นๆ ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าเทคโนโลยีนี้จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่ และอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิตอย่างมากองค์ประกอบของการทำงานเครื่องทาบบัตร ระบบ RFIDองค์ประกอบของเครื่องทาบบัตร ระบบ RFID ที่สำคัญมี 2 อย่าง คือ

A.บัตร Proximity, Key Tag, บัตร Tag B.เครื่องทาบบัตร (Tag Reader) หรือเครื่องอ่านบัตร

ระบบ RFID สิ่งสำคัญของเทคโนโลยี RFID นั้นคือ การชี้เฉพาะ ซึ่งเป็นวิธีการระบุเอกลักษณ์ของสิ่งต่างๆ หากเราลอง พิจารณาอย่างง่ายถึงการที่บัตรประจำตัวพนักงาน (Tag) จะมีหน่วยความจำว่าเจ้าของTagนั้นเป็นใคร เช่น ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งงาน เลขประจำตัวพนักงาน จะให้เข้า / ไม่ให้เข้าพื้นที่ใดได้บ้างหรืออีกตัวอย่างคือสินค้าชนิดเดียวกันสองชิ้น เช่น ปลากระป๋อง 2 กระป๋อง ถ้าเราพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอก เช่น ฉลาก สี หรือรูปทรง จะพบว่า ปลากระป๋องทั้งสองกระป๋องนั้นมีความแตกต่างกันน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีความแตกต่างกันเลย ซึ่งความเป็นจริงแล้วนั้น Tag สามารถทำให้เราระบุคุณสมบุติอื่น ๆ เช่น แหล่งที่มาของวัสดุวันที่และล็อตของการผลิตพนักงานผู้ผลิต การผ่านการตรวจสอบคุณภาพ (QC Inspection)โดยพนักงานผู้ใดเป็นต้นA.Tag/RFID Tag หรือ Transpondersเช่นบัตรพนักงาน Tag สติกเกอร์ติดหน้ารถTag/RFID Tag นั้นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าทรานสปอนเดอร์ (Transponder) RFID Tag ก็จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณวิทยุ หรือข้อมูลที่บันทึกอยู่ในไมโครชิปและสายอากาศที่อยู่ในตัวบัตร(Tag)ไปที่เครื่องอ่านบัตร(Reader)การสื่อสารระหว่าง Tag และเครื่องอ่านบัตรจะเป็นแบบไร้สายผ่านทางอากาศ (Wireless)ภายใน RFID Tag จะประกอบไปด้วยไมโครชิป ซึ่งเชื่อมต่อกับสายอากาศไมโครชิปที่อยู่ใน RFID Tag จะมีหน่วย ความจำตัว Memory Unit ใช้ในการเก็บข้อมูล ตัวTagสามารถผลิตออกมาเป็นรูปแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ มีหลายชื่อ ตามผู้คิดค้นผลิตซึ่งจะตั้งชือตามแต่ผู้ผลิตเช่น บัตรพนักงาน (ID Tag) บัตร Proximity หรืออยู่ในรูปแบบตัวพวงกุญแจเหรียญผ่านประตูกั้นของรถไฟฟ้า สติกเกอร์ (Tag) ติดหน้ารถยนต์ฯลฯ ซึ่งมักจะเรียกว่า มายแฟร์(Mifare) เราสามารถแบ่งชนิดของ RFID Tag ออกเป็น 2 ชนิด คือ

  • Passive Tag จะไม่มีแบตเตอรี่อยู่ภายใน แต่จะทำงานโดยอาศัยพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic) จากตัวอ่านข้อมูล จึงทำให้ RFID Tag ชนิด Passive Tag มีน้ำหนักเบากว่า RFID Tag ชนิด Active Tag มีอายุการใช้งานไม่จำกัด ราคาก็ถูกกว่า แต่ข้อเสียคือระยะการรับส่งข้อมูลใกล้ และตัวอ่านข้อมูลจะต้องมีความไวสูง นอกจากนี้ Passive Tag มักจะมีปัญหาเมื่อนำไปใช้งานในบริเวณที่มีสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนสูงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองชนิดแล้ว Passive Tag เป็นที่นิยมมากกว่าในเรื่อง ราคาถูกและอายุการใช้งานอย่างไม่จำกัดนั้นเอง
  • Active Tag, RFID Tag ชนิดนี้จะมีแบตเตอรี่อยู่ภายใน เพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับวงจรภายใน เราจะสามารถทั้งอ่านและเขียนข้อมูลลงใน RFID Tag ชนิดนี้ได้ และการที่ต้องใช้แบตเตอรี่ตัวอย่าง Active tag คือตัวที่ติดกับรถยนต์เพื่อผ่านช่อง EasyPassของทางด่วน Active Tag มีกำลังส่งสูงและระยะการรับส่งข้อมูลไกลกว่า RFID Tag ชนิด Passive Tag และยังสามารถทำงานในบริเวณที่มีสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนได้ดีอีกด้วย

B. Reader, RFID Reader หรือ Interrogator เครื่องทาบบัตร (Tag Reader), เครื่องอ่านบัตร, เครื่องบันทึกเวลาทำงาน

Reader หรือตัวอ่านข้อมูลที่ติดอยู่ข้างกำแพง หรือ หรือตัวรอบบัตร เครื่องทาบบัตร ก็คือการรับคลื่อนวิทยุข้อมูลที่ส่งมาจาก RFID Tag หรือบัตรพนักงาน ทำการตรวจสอบรวมทั้งถอดรหัสข้อมูลและนำข้อมูลนั้นไปใช้ใช้ในการะบุตัวตนบุคคล เครื่องทาบบัตร Reader ที่ดีจะต้องมีระบบป้องกันการอ่านซ้ำของข้อมูลโดยตัว Reader จะสั่งให้ RFID Tag หยุดส่งข้อมูลในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ RFID Tag ถูกวางทิ้งไว้ในบริเวณสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่อยู่ในระยะการรับ-ส่งข้อมูลทำให้การรับข้อมูลจาก Tag ซ้ำอยู่เรื่อยๆไม่สิ้นสุด หรือในบางกรณีที่มี RFID Tag อยู่ในระยะการการรับส่งข้อมูลพร้อมกันหลายๆอันหรือที่เรียกว่า “Batch Reading” ตัวReader ควรจะมีความสามารถที่จะจัดลำดับการอ่าน RFID Tag ละตัวได้